เช่ารถบัสทัศนศึกษา จัดสัมนา อบรม ทัศนศึกษา บริษัทจัดทัวร์ เช่ารถตู้ รถบัสให้เช่า งานเลี้ยงรับรองคณะทัวร์เช่ารถโค้ช VIPเช่ารถบัสปรับอากาศ 2 ชั้น 8
นำเที่ยวทั่วไทย
รถบัสเช่าลำปาง
เช่ารถบัสจัดกรุ๊ปเหมาลำปาง
เช่ารถบัสศึกษาดูงานลำปาง
รถบัสจัดอบรมลำปาง
รถบัสจัดสัมมนาลำปาง
รถบัสจัดประชุมลำปาง
เช่ารถบัสทัศนศึกษาลำปาง
รถบัสvipลำปาง
ราคาเช่ารถบัสลำปาง
ศูนย์รถบัสนำเที่ยวลำปาง สัมนา ศึกษาดูงาน
บริการนำเที่ยวเป็นหมู่คณะทั่วประเทศด้วยรถโค๊ชปรับอากาศ 2 ชั้น VIP สวยหรูพร้อมระบบ เครื่อเสียง ทันสมัยด้วยคอมพิวเตอร์คาราโอเกะทุกคัน ท่านใดสนใจใช้บริการไม่ว่าจะเป็น ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจและบริษัทเอกชน
บริการเช่ารถบัสลำปาง
เช่ารถโค้ชVIPลำปาง
เช่ารถทัวร์VIPลำปาง
รถบัสปรับอากาศลำปาง
รถบัสทัศนศึกษาลำปาง
เช่ารถทัวร์นำเที่ยวลำปาง
บริษัทรับจัดเลี้ยง ประชุมสัมมนา | จัดประชุมสัมนา
กิจกรรมท้าทายที่แอดเวนเจอร์พาร์ค แห่งเดียวบนเขาค้อ พร้อมที่พัก ห้องประชุม สัมมนา จัดเลี้ยง รับจัดสัมมนา จัดเลี้ยง งานประชุม ครบวงจร ตามงบประมาณด้วยทีมงานมืออาชีพ อุปกรณ์ได้มาตรฐาน
รับจัดอาหารลำปาง
รับจัดงานเลี้ยงบริษัทลำปาง
จัดเลี้ยงสัมมนาลำปาง
รับจัดเลี้ยงงานบริษัทลำปาง
จัดเลี้ยงงานสัมมนาลำปาง
รับจัดอาหารเบรคลำปาง

จัดทริปสัมมนา | รับจัดสัมมนา ที่พัก รถบัส ทัวร์สัมมนา
เราคือ Organizer ผู้ให้บริการ Webinar จัดงานสัมมนา ประชุม อบรม รูปแบบครบวงจร
บริษัทรับจัดสัมมนาลำปาง
รับจัดทัวร์ลำปาง
จัดท่องเที่ยวกิจกรรมลำปาง
กิจกรรมทัวร์ลำปาง
ทริปเที่ยวประจำปีบริษัทลำปาง
โปรแกรมทัวร์ลำปาง
บริษัทจัดสัมมนาลำปาง
จัดโปรแกรมทัวร์ลำปาง
กิจกรรมสัมมนาลำปาง

รู้จักประเภท ‘รถทัวร์’ เลือกนั่งไปเที่ยวยังไงไม่ให้สับสน
ชวนทำความรู้จัก "รถทัวร์" หรือรถบัสโดยสารสาธารณะในประเทศไทย ว่ามีกี่ประเภท? อะไรบ้าง? พร้อมเปรียบเทียบความแตกต่างของ "รถทัวร์" ประเภทต่างๆ เพื่อช่วยให้คุณสามารถเลือกจองตั๋วรถได้อย่างตรงใจ
กางปฏิทินเห็นวันหยุดยาวทีไร กิจกรรมยอดฮิตของคนไทยคงหนีไม่พ้นการเดินทาง "ท่องเที่ยว" เปลี่ยนบรรยากาศ ไม่ว่าจะเที่ยวในกรุงเทพฯ หรือเที่ยวต่างจังหวัดก็ตาม โดยเฉพาะเดือนกรกฎาคมนี้ พบว่ามีวันหยุดนักขัตฤกษ์หลายวัน เช่น วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา เมื่อพ่วงวันหยุดประจำสัปดาห์เข้าไปอีก ก็ทำให้ภายในเดือนกรกฎาคมมีวันหยุดยาวถึง 4 วัน คือวันที่ 4-7 กรกฎาคม 2563 (วันที่ 7 กรกฎาคม เป็นวันหยุดชดเชยเพิ่มเติมตามมติ ครม.)
หลังจากรู้แล้วว่าเดือนนี้ได้หยุดยาว 4 วัน สำหรับคนที่ชอบเที่ยวขั้นตอนต่อไปก็คือ การเลือกสถานที่ท่องเที่ยวและวางแผนเดินทาง และเมื่อพูดถึงวิธี "การเดินทาง" หลายคนย่อมอยากได้การเดินทางที่สะดวกสบาย ปลอดภัย และราคาไม่แพงจนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว หรือมีรถแต่ไม่สะดวกขับรถด้วยตนเอง ยิ่งต้องวางแผนเรื่อง "การเดินทาง" ให้รัดกุม หนึ่งวิธีเดินทางที่สะดวกสบายและราคาประหยัดก็คือการใช้บริการ "รถทัวร์"
ปัจจุบันนี้การให้บริการ "รถทัวร์" เพื่อเดินทางข้ามจังหวัดในระยะไกลนั้นถูกพัฒนาการบริการดีขึ้นกว่าแต่ก่อน และยังคงมีราคาสบายกระเป๋า แถมมีผู้ให้บริการหลากหลายเจ้า แต่หลายคนก็มักพบปัญหากวนใจทุกครั้งก่อน "จองตั๋วรถทัวร์" เช่น เลือกซื้อตั๋วไม่ถูกเพราะสับสนประเภทของรถทัวร์ เป็นต้น วันนี้ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ เลยอยากชวนคุณไปรู้จัก "รถทัวร์" ประเภทต่างๆ พร้อมเปรียบเทียบความแตกต่างของรถทัวร์แต่ละประเภท เอาไว้เป็นไกค์เพื่อให้จองตั๋วรถทัวร์ได้ง่ายขึ้น
รถทัวร์มีกี่ประเภท? อะไรบ้าง?
ใครที่ยังสงสัยเกี่ยวกับการจองตั๋ว "รถทัวร์" ต้องเข้ามาอ่านตรงนี้ด่วนๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโทรจองกับบริษัทต่างๆ พนักงานจะพูดรัวเร็วและมักใช้ตัวย่อ จนบางทีคนฟังก็งงไปหมด ทั้งนี้ พ.ร.บ. การขนส่งในหมวดการขนส่งผู้โดยสารแบ่งประเภทรถออกเป็น 7 มาตรฐาน คือ
มาตรฐาน 1 รถปรับอากาศพิเศษ
มาตรฐาน 2 รถปรับอากาศ
มาตรฐาน 3 รถที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ
มาตรฐาน 4 รถสองชั้น
มาตรฐาน 5 รถพ่วง
มาตรฐาน 6 รถกึ่งพ่วง
มาตรฐาน 7 รถโดยสารเฉพาะกิจ
โดยมาตรฐานรถที่บริษัทขนส่งผู้โดยสารนิยมใช้กันมี 3 ประเภท คือ รถปรับอากาศพิเศษ, รถปรับอากาศ, รถสองชั้น
โดยมาตรฐานรถที่บริษัทขนส่งผู้โดยสารนิยมใช้ก็มีเพียง 3 ประเภท คือ มาตรฐาน 1 รถปรับอากาศพิเศษ มาตรฐาน 2 รถปรับอากาศ และมาตรฐาน 4 รถสองชั้น
มาตรฐาน 1 รถปรับอากาศพิเศษ หรือ รถ ม.1
เริ่มจาก "รถทัวร์" ที่เรียกว่ารถมาตรฐาน 1 หรือใช้ตัวย่อว่า ม.1 คือรถทัวร์โดยสารที่มีชั้นเดียว และมีจำนวนเบาะน้อยกว่ารถประเภทอื่นๆ ทำให้รถประเภทนี้มีพื้นที่และความเป็นส่วนตัวมากกว่า โดยรถ ม.1 ก็มีการแบ่งประเภทแยกย่อยออกไปอีก ได้แก่
ม.1 ก : รถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารที่มีการกำหนดห้องผู้โดยสารเป็นสัดส่วนแยกจากห้องผู้ขับรถ มีทางขึ้นทางลงด้านข้างหรือที่ด้านท้ายของรถ ไม่กำหนดที่สำหรับผู้โดยสารยืน มีเครื่องปรับอากาศ มีที่เก็บสัมภาระไว้โดยเฉพาะ มีที่เตรียมอาหารและเครื่องดื่ม มีอุปกรณ์ให้เสียงและประชาสัมพันธ์ และมีห้องสุขภัณฑ์ มีที่วางแขนเฉพาะแยกแต่ละที่นั่ง ปรับเอนได้ 135 องศาฯ ระยะห่างระหว่างเบาะไม่น้อยกว่า 90 ซม. จัดที่นั่งแถวละไม่เกิน 3 ที่นั่ง
ม.1 ข : รถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารที่มีการกำหนดห้องผู้โดยสารเป็นสัดส่วนแยกจากห้องผู้ขับรถ มีทางขึ้นทางลงด้านข้างหรือที่ด้านท้ายของรถ ไม่กำหนดที่สำหรับผู้โดยสารยืน มีเครื่องปรับอากาศ มีที่เก็บสัมภาระไว้โดยเฉพาะ มีที่เตรียมอาหารและเครื่องดื่ม มีอุปกรณ์ให้เสียงและประชาสัมพันธ์ และมีห้องสุขภัณฑ์ มีระยะห่างระหว่างเบาะไม่น้อยกว่า 75 ซม.
มาตรฐาน 2 รถปรับอากาศ หรือ รถ ม.2
เป็น "รถทัวร์" โดยสารที่มีจำนวนที่นั่งเกิน 30 ที่นั่ง มีชั้นเดียว ทางขึ้นลงด้านข้างหรือด้านท้ายของรถ ส่วนพื้นที่สำหรับเก็บสัมภาระ ที่เตรียมอาหารเครื่องดื่ม และอุปกรณ์ให้เสียงและประชาสัมพันธ์นั้น จะมีหรือไม่ก็ได้ แต่ไม่มีห้องสุขภัณฑ์ ทั้งนี้ส่วนใหญ่แล้วรถประเภทนี้จะเป็นรถที่เราคุ้นเคยกันอย่างรถเมล์ต่างๆ ที่ใช้โดยสารในกรุงเทพฯ แต่ก็มีบางบริษัทที่เอามาใช้โดยสารข้ามจังหวัดเช่นกัน โดยรถ ม.2 มีการแบ่งย่อยเป็นอีกหลายประเภท ดังนี้
ม.2 ก : มีเครื่องปรับอากาศ มากกว่า 30 ที่นั่ง มีที่เตรียมอาหาร ไม่มีที่ยืน
ม.2 ข : มีเครื่องปรับอากาศ มากกว่า 30 ที่นั่ง ไม่มีที่เตรียมอาหาร มีที่ยืน
ม.2 ค : มีเครื่องปรับอากาศ มีจำนวนที่นั่งตั้งแต่ 21 ถึง 30 ที่นั่ง มีที่เตรียมอาหารหรือไม่ก็ได้ ไม่มีที่ยืน
ม.2 ง : มีเครื่องปรับอากาศ มีจำนวนที่นั่งตั้งแต่ 21 ถึง 30 ที่นั่ง ไม่มีที่เตรียมอาหาร มีที่ยืน
ม.2 จ : รถตู้ มีที่นั่งไม่เกิน 20 ที่นั่ง ไม่มีที่ยืน
มาตรฐาน 4 รถสองชั้น หรือ รถม.4
เป็น "รถทัวร์" ขนส่งมวลชนสาธาระแบบ 2 ชั้น แบ่งเป็น
ม.4 ก : รถสองชั้นปรับอากาศพิเศษ ซึ่งมีรูปแบบและการจัดวางที่นั่งของผู้โดยสารที่ให้ความสะดวกสบาย ไม่กำหนดที่สำหรับผู้โดยสารยืน มีเครื่องปรับอากาศ มีที่เก็บสัมภาระไว้โดยเฉพาะ มีที่สำหรับเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม มีอุปกรณ์ให้เสียงและประชาสัมพันธ์ และมีห้องสุขภัณฑ์ ระยะห่างระหว่างเบาะไม่น้อยกว่า 90 ซม. จัดที่นั่งแถวละไม่เกิน 3 ที่นั่ง
ม.4 ข : รถสองชั้นปรับอากาศ ไม่กำหนดที่สำหรับผู้โดยสารยืน มีเครื่องปรับอากาศ มีที่เก็บสัมภาระไว้โดยเฉพาะ มีที่สำหรับเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม มีอุปกรณ์ให้เสียงและประชาสัมพันธ์ และมีห้องสุขภัณฑ์ ระยะห่างระหว่างเบาะไม่น้อยกว่า 75 ซม.
ม.4 ค : รถสองชั้นปรับอากาศ ไม่กำหนดที่สำหรับผู้โดยสารยืน มีเครื่องปรับอากาศ แต่ไม่มีห้องสุขภัณฑ์ ส่วนที่เก็บสัมภาระ ที่สำหรับเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม และอุปกรณ์ให้เสียงและประชาสัมพันธ์นั้น จะมีหรือไม่ก็ได้
ม.4 ง : รถสองชั้นปรับอากาศ ซึ่งชั้นล่างกำหนดให้มีที่สำหรับผู้โดยสารยืน มีเครื่องปรับอากาศ แต่ไม่มีที่สำหรับเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม และห้องสุขภัณฑ์ สำหรับที่เก็บสัมภาระและอุปกรณ์ให้เสียงและประชาสัมพันธ์นั้น จะมีหรือไม่ก็ได้
ม.4 จ : รถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารที่มีจำนวนที่นั่งตั้งแต่ 13 - 24 ที่นั่ง มีทางขึ้นลงด้านข้างหรือด้านท้ายของรถ จะกำหนดที่สำหรับผู้โดยสารยืนหรือไม่ก็ได้ และจะมีที่เก็บสัมภาระด้วยหรือไม่ก็ได้
ม.4 ฉ : รถสองชั้นที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ไม่กำหนดให้มีที่สำหรับผู้โดยสารยืน มีที่เก็บสัมภาระ แต่ไม่มีที่สำหรับเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม และห้องสุขภัณฑ์
กล่าวโดยสรุป ก็คือ
รถ ม.1 เป็นรถทัวร์ชั้นเดียว มีจำนวนเบาะน้อยกว่ารถประเภทอื่นๆ ทำให้รถประเภทนี้มีพื้นที่และความเป็นส่วนตัวมากกว่า
รถ ม.2 เป็นรถทัวร์ชั้นเดียว ส่วนใหญ่แล้วนิยมนำไปโดยสารระยะใกล้ เช่น รถเมล์ในกรุงเทพฯ
รถ ม.4 เป็นรถทัวร์สองชั้น ให้ความสะดวกสบายใกล้เคียงกับรถ ม.1 ต่างกันที่จำนวนชั้น
บริษัทขนส่งยอดฮิต มีรถประเภทอะไรบ้าง?
บริษัทขนส่งผู้โดยสารส่วนใหญ่นั้นมักจะตั้งชื่อรถให้มีความโดดเด่นเฉพาะตัว รวมถึงการจัดประเภทรถตามนโยบายของแต่ละที่ เราจึงรวบรวมรถของ 3 บริษัทยอดฮิตมาให้พิจารณากันว่ามีบริการ "รถทัวร์" ประเภทไหนบ้าง? โดยเรียงลำดับจากความนั่งสบายมากที่สุดไปหาน้อยที่สุด
1. สมบัติทัวร์
ประเภท Supreme = ม.4 ก
ประเภท Super = ม.1
ประเภท Star = ม.4 ข
2. นครชัยแอร์
Gold Class (VIP) = ม.1 ก
First Class = ม.1 ข
3. บขส. 999
ม.1 (ก) vip
ม.4 (ก) vip
ม.4 (พ)
ม.1 (ข)
ม.4 (ข)
ม.4 (ค)
ม.2
การคมนาคมขนส่ง
ทางบก
ทศวรรษ 2500 ที่เริ่มมีการขยายตัวการของทางหลวง อันได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาโดยมีเหตุผลเรื่องความมั่นคงแฝงอยู่เบื้องหลังการเดินทางดังกล่าว ทำให้แต่ละจังหวัดถูกเชื่อมกันด้วยเส้นทางหลวง จากจังหวัดสู่จังหวัด และยังอาจรวมไปถึงจากจังหวัดไปสู่ตัวอำเภอต่าง ๆ อีกด้วย เส้นทางขึ้นเหนือ คือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน จากกรุงเทพฯ สู่ จังหวัดเชียงราย
นอกจากนั้นยังมี “โครงการทางหลวงเอเชีย” ที่เป็นความร่วมมือของภูมิภาค เพื่อที่จะพัฒนาการเชื่อมโยง เมืองหลวง เมืองอุตสาหกรรม ท่าเรือ สถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งการค้าสำคัญด้วยกัน ประเทศที่เกี่ยวข้องได้แก่ กัมพูชา ไทย เนปาล บังกลาเทศ ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม ศรีลังกา ลาว อัฟกานิสถาน อินเดีย อินโดนีเซีย และอิหร่าน ความร่วมมือเกิดจาก คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจสำหรับเอเชีย และตะวันออกไกล (ECAFE ปัจจุบันคือ คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก ESCAP) ในปี 2502 ต่อมาจีน พม่าและมองโกเลียได้ร่วมโครงการในปี 2531-2533 ทางหลวงเอเชียที่ผ่านประเทศไทยสายประธานที่เกี่ยวกับภาคเหนือมี 3 สายนั่นคือ
- สาย A-1 เริ่มจากเขตแดนพม่า อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เลี้ยวไปบรรจบกับ ทางหลวงหมายเลข 1 ที่ตาก แล้วลงไปยังนครสวรรค์
- สาย A-2 เริ่มจากเขตแดนพม่า อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เข้าเชียงรายแล้วลงมาตามทางหลวงหมายเลข 1 ซึ่งผ่านจังหวัดลำปาง
- สาย A-3 เริ่มจากแยกสาย A-2 ที่เชียงราย ออกไปตามทางหลวงหมายเลข 1020 เพื่อเลี้ยวไปจดเขตแดนลาว ที่ อำเภอเชียงของ
ขณะที่ทางหลวงหมายเลขที่ 11 ที่เชื่อมลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่ ตัดผ่านในต้นทศวรรษ 2510
จังหวัดลำปางอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 600 กิโลเมตร จากเส้นทางสายเอเชีย (ถนนพหลโยธิน) ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์กำแพงเพชร ตาก เข้าสู่ลำปาง ถนนเป็นถนนสี่เส้นทางการจราจรตลอดทาง หรือใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 แยกจากถนนพหลโยธิน ที่จังหวัดนครสวรรค์ ผ่านพิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ แพร่ เข้าสู่ลำปาง สิ้นสุดปลายทางที่เชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทางรถส่วนตัวประมาณ 7-8 ชั่วโมง
การเดินทางภายในจังหวัด
การขนส่งมวลชนเพื่อเดินทางภายในจังหวัดมีรถให้บริการที่คนลำางเรียกกันว่า “รถสี่ล้อ” แบ่งเป็น 2 ประเภท
- รถสี่ล้อ (รถสองแถว) สีเหลือง-เขียว เส้นทางภายในตัวเมือง สังกัดสหกรณ์เดินรถนครลำปาง จำกัด
- รถสี่ล้อ (รถสองแถว) สีน้ำเงินและสีฟ้า เส้นทางระหว่างอำเภอ สังกัดสหกรณ์เดินรถนครลำปาง จำกัด
รถโดยสารประจำทางระหว่างต่างจังหวัดและกรุงเทพมหานคร
รถประจำทางจากกรุงเทพฯ-ลำปาง สามารถเดินทางได้จาก สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) มีรถให้เลือกหลายบริษัทหลายระดับ ขณะที่การเดินทางออกจากลำปาง ใช้สถานีขนส่งจังหวัดลำปาง สังกัดเทศบานครลำปาง ณ ถนนจันทรสุรินทร์ ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมืองลำปาง โดยรถประจำทางมีเส้นทางเดินรถดังนี้
สายกรุงเทพฯ
- สาย 1 กรุงเทพ-เชียงใหม่ (ก) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บลูไนน์ (กรีนบัส)
- สาย 13 กรุงเทพ-ฝาง-บ้านท่าตอน (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง-เชียงใหม่-แม่ริม-ฝาง-แม่อาย-บ้านท่าตอน) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. นิววิริยะยานยนต์ทัวร์
- สาย 18 กรุงเทพ-เชียงใหม่ (ข) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. นครชัยแอร์ สมบัติทัวร์ บางกอกบัสไลน์ สยามเฟิร์สทัวร์ พรพิริยะทัวร์ วิริยะทัวร์ นิววิริยะยานยนต์ทัวร์ ศรีทะวงศ์ทัวร์ ลิกไนท์ทัวร์ เชิดชัยทัวร์ แอมบาสเดอร์ทัวร์ อินทราทัวร์
- สาย 90 กรุงเทพ-เชียงราย (ก) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-ตาก-ลำปาง-พะเยา-เชียงราย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยแอร์ สมบัติทัวร์ บางกอกบัสไลน์ สยามเฟิร์สทัวร์ เชิดชัยทัวร์
- สาย 91 กรุงเทพ-ลำปาง (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. สมบัติทัวร์ สยามเฟิร์สทัวร์ พรพิริยะทัวร์ นิววิริยะยานยนต์ทัวร์ เชิดชัยทัวร์ นครชัยแอร์ วิริยะทัวร์
- สาย 924 กรุงเทพ-ลำพูน (ก) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง-ลำพูน) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. เชิดชัยทัวร์
- สาย 964 กรุงเทพ-ดอยเต่า-จอมทอง (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-เถิน-ลี้-ดอยเต่า-จอมทอง) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส.
- สาย 9911 กรุงเทพ-ลำพูน (ข) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-เถิน-ลี้-ลำพูน) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส.
สายภาคกลาง
- สาย 114 นครสวรรค์-เชียงใหม่ (นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครสวรรค์ยานยนต์ (ถาวรฟาร์ม)
- สาย 155 พิษณุโลก-เชียงใหม่ (สายเก่า) (พิษณุโลก-สุโขทัย-ตาก-เถิน-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ สุโขทัยวินทัวร์ ศรีทะวงค์ทัวร์
- สาย 132 พิษณุโลก-เชียงใหม่ (สายเก่า) (พิษณุโลก-สุโขทัย-สวรรคโลก-ทุ่งเสลี่ยม-เถิน-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ สุโขทัยวินทัวร์
- สาย 623 พิษณุโลก-เชียงใหม่ (สายใหม่) (พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ สุโขทัยวินทัวร์
สายตะวันออก
- สาย 659 ระยอง-พัทยา-เชียงใหม่ (ระยอง-พัทยา-ชลบุรี-ฉะเชิงเทรา-สระบุรี-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยแอร์
- สาย 660 ระยอง-เชียงราย-แม่สาย (รถด่วนพิเศษ VIP) (ระยอง-พัทยา-ชลบุรี-ฉะเชิงเทรา-สระบุรี-นครสวรรค์-ตาก-ลำปาง-พะเยา-เชียงราย-แม่สาย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยแอร์
สายตะวันออกเฉียงเหนือ
- สาย 175 ขอนแก่น-เชียงใหม่ (สายเก่า) (ขอนแก่น-ชุมแพ-หล่มสัก-พิษณุโลก-สุโขทัย-ตาก-เถิน-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ อีสานทัวร์ ภูหลวงทรานสปอร์ต
- สาย 587 อุบลราชธานี-เชียงใหม่ (อุบลฯ-ศรีสะเกษ-สุรินทร์-บุรีรัมย์-บัวใหญ่-ชัยภูมิ-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยแอร์
- สาย 633 ขอนแก่น-เชียงใหม่ (สายใหม่) (ขอนแก่น-ชุมแพ-หล่มสัก-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ อีสานทัวร์ สมบัติทัวร์
- สาย 635 นครราชสีมา-เชียงใหม่ (นครราชสีมา-สีคิ้ว-โคกสำโรง-ตากฟ้า-เขาทราย-วังทอง-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยทัวร์
- สาย 636 เชียงใหม่-อุดรธานี (อุดรธานี-หนองบัวลำภู-วังสะพุง-เลย-ภูเรือ-ด่านซ้าย-นครไทย-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ จักรพงษ์ทัวร์ อ.ศึกษาทัวร์
- สาย 874 เชียงใหม่-ขอนแก่น-อุบลราชธานี (เชียงใหม่-ดอยติ-ลำปาง-เด่นชัย-อุตรดิตถ์-พิษณุโลก-หล่มสัก-ชุมแพ-ขอนแก่น-โกสุมพิสัย-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-เสลภูมิ-ยโสธร-คำเขื่อนแก้ว-เขื่องใน-อุบลราชธานี) บริษัท เพชรประสริฐ จำกัด
- สาย 876 เชียงใหม่-นครพนม (เชียงใหม่-ดอยติ-ลำปาง-เด่นชัย-อุตรดิตถ์-พิษณุโลก-เลย-หนองบัวลำภู-อุดรธานี-สว่างแดนดิน-พังโคน-สกลนคร-นครพนม) บริษัท เพชรประเสริฐ จำกัด
สายใต้
- สาย 779 ภูเก็ต-เชียงใหม่ (ภูเก็ต-สุราษฎร์ธานี-ชุมพร-ประจวบฯ-หัวหิน-ชะอำ-เพชรบุรี-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 871 เชียงใหม่-หัวหิน (เชียงใหม่-ลำปาง-ตาก-นครสวรรค์-ชัยนาท-อู่ทอง-นครปฐม-ราชบุรี-เพชรบุรี-หัวหิน) บริษัท สมบัติทัวร์ จำกัด
สายตะวันตก
- สาย 875 เชียงใหม่-กาญจนบุรี (เชียงใหม่-ลำปาง-ตาก-กำแพงเพชร-นครสวรรค์-ชัยนาท-สุพรรณบุรี-กาญจนบุรี) บริษัท ศศนันท์ ทรานสปอร์ต จำกัด
สายเหนือ
- สาย 144 ลำปาง-แพร่ (ลำปาง-ม.ราชภัฏลำปาง-แม่ทะ-แม่แขม-ลอง-แพร่) บริษัท นครลำปางเดินรถ จำกัด (รถตู้ปรับอากาศ)
- สาย 145 ลำปาง-เชียงใหม่ (เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ห้างฉัตร-ลำปาง) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 146 ลำปาง-เชียงราย (ลำปาง-งาว-พะเยา-แม่ใจ-พาน-เชียงราย) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 147 เชียงใหม่-พาน (เชียงใหม่-ลำปาง-งาว-พะเยา-แม่ใจ-พาน) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 148 เชียงใหม่-ลำปาง-เชียงราย (เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ลำปาง-งาว-พะเยา-พาน-เชียงราย) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 149 เชียงใหม่-ลำปาง-แม่สาย (เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ลำปาง-งาว-พะเยา-พาน-เชียงราย-แม่จัน-แม่สาย) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 167 ลำปาง-เชียงราย (ลำปาง-แจ้ห่ม-วังเหนือ-เวียงป่าเป้า-แม่สรวย-เชียงราย) บริษัท นครลำปางเดินรถ จำกัด
- สาย 169-2 เชียงใหม่-น่าน-ทุ่งช้าง (เชียงใหม่-ลำปาง-เด่นชัย-แพร่-ร้องกวาง-น่าน-ปัว-เชียงกลาง-ทุ่งช้าง) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 672 แม่สาย-แม่สอด (แม่สาย-แม่จัน-เชียงราย-เวียงป่าเป้า-เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ลำปาง-เถิน-บ้านตาก-ตาก-แม่สอด) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 673 แม่สาย-แม่สอด (แม่สาย-แม่จัน-เชียงราย-พะเยา-ม.พะเยา-อ.งาว-ลำปาง-อ.เถิน-อ.บ้านตาก-ตาก-แม่สอด) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 1661 เชียงใหม่-ลำปาง-เชียงราย-สามเหลี่ยมทองคำ (ข) (เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ลำปาง-งาว-พะเยา-พาน-เชียงราย-แม่จัน-เชียงแสน-สามเหลี่ยมทองคำ) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 1693 ลำปาง-แพร่ (ลำปาง-แม่แขม-เด่นชัย-สูงเม่น-แพร่) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส) (รถตู้ปรับอากาศ)
ทางรถไฟ
เริ่มมีการเดินรถไฟครั้งแรกในวันที่ 1 เมษายน 2459 ณ สถานีรถไฟนครลำปาง
สถานีรถไฟ
ศูนย์กลางอยู่ที่สถานีรถไฟนครลำปาง ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมืองลำปาง สถานีรถไฟนครลำปาง เปิดใช้งาน 1 เมษายน 2459 รองรับ ขบวน รถรวม พิษณุโลก – ลำปาง และ อุตรดิตถ์ – ลำปาง ก่อนมีรถด่วน สายเหนือตรงจากกรุงเทพ ขึ้นมาทำขบวนเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2465
พ.ศ. 2506 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้จัดส่งหัวรถจักรไอน้ำมาแสดงไว้ที่สถานีรถไฟลำปาง และกำหนดให้สถานีรถไฟแห่งนี้เป็นสถานีประวัติศาสตร์ และทำการอนุรักษ์ไว้ รูปแบบสถาปัตยกรรมของสถานีรถไฟลำปางเป็นอาคาร 2 ชั้น ก่ออิฐฉาบปูน ผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีปีก 2 ข้างเชื่อมกับโถงกลาง รูปแบบสถาปัตยกรรมแบบอาณานิคม มีการใช้โค้ง (arch) และการประดับตกแต่งด้วยไม้ฉลุ และปูนปั้น พื้นที่ของสถานีรถไฟนครลำปาง มีประมาณ 161 ไร่ มีตัวอาคารสถานี คลังสินค้า พื้นที่เก็บหัวรถจักรและตัวรถไฟ รวมถึงพื้นที่บ้านพักพนักงาน อาคารสถานีดังที่เห็นในปัจจุบันได้ผ่านการต่อเติมมาเป็นบางส่วน โดยเฉพาะช่วงก่อนปีพ.ศ. 2520 มีการต่อเติมส่วนควบคุมบริเวณปีกทางทิศใต้ ส่วนพักคอยด้านติดรางรถไฟ และ ซุ้มด้านหน้าที่จอดรถ จากนั้นมีการเปลี่ยนกระเบื้องหลังคา กระเบื้องพื้น และปรับปรุงพื้นชั้นล่างทั้งหมดในปี พ.ศ. 2538