เช่ารถบัสทัศนศึกษา จัดสัมนา อบรม ทัศนศึกษา บริษัทจัดทัวร์ เช่ารถตู้ รถบัสให้เช่า งานเลี้ยงรับรองคณะทัวร์เช่ารถโค้ช VIPเช่ารถบัสปรับอากาศ 2 ชั้น 8
นำเที่ยวทั่วไทย
รถบัสเช่าเพชรบูรณ์
เช่ารถบัสจัดกรุ๊ปเหมาเพชรบูรณ์
เช่ารถบัสศึกษาดูงานเพชรบูรณ์
รถบัสจัดอบรมเพชรบูรณ์
รถบัสจัดสัมมนาเพชรบูรณ์
รถบัสจัดประชุมเพชรบูรณ์
เช่ารถบัสทัศนศึกษาเพชรบูรณ์
รถบัสvipเพชรบูรณ์
ราคาเช่ารถบัสเพชรบูรณ์
ศูนย์รถบัสนำเที่ยวเพชรบูรณ์ สัมนา ศึกษาดูงาน
บริการนำเที่ยวเป็นหมู่คณะทั่วประเทศด้วยรถโค๊ชปรับอากาศ 2 ชั้น VIP สวยหรูพร้อมระบบ เครื่อเสียง ทันสมัยด้วยคอมพิวเตอร์คาราโอเกะทุกคัน ท่านใดสนใจใช้บริการไม่ว่าจะเป็น ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจและบริษัทเอกชน
บริการเช่ารถบัสเพชรบูรณ์
เช่ารถโค้ชVIPเพชรบูรณ์
เช่ารถทัวร์VIPเพชรบูรณ์
รถบัสปรับอากาศเพชรบูรณ์
รถบัสทัศนศึกษาเพชรบูรณ์
เช่ารถทัวร์นำเที่ยวเพชรบูรณ์
บริษัทรับจัดเลี้ยง ประชุมสัมมนา | จัดประชุมสัมนา
กิจกรรมท้าทายที่แอดเวนเจอร์พาร์ค แห่งเดียวบนเขาค้อ พร้อมที่พัก ห้องประชุม สัมมนา จัดเลี้ยง รับจัดสัมมนา จัดเลี้ยง งานประชุม ครบวงจร ตามงบประมาณด้วยทีมงานมืออาชีพ อุปกรณ์ได้มาตรฐาน
รับจัดอาหารเพชรบูรณ์
รับจัดงานเลี้ยงบริษัทเพชรบูรณ์
จัดเลี้ยงสัมมนาเพชรบูรณ์
รับจัดเลี้ยงงานบริษัทเพชรบูรณ์
จัดเลี้ยงงานสัมมนาเพชรบูรณ์
รับจัดอาหารเบรคเพชรบูรณ์

จัดทริปสัมมนา | รับจัดสัมมนา ที่พัก รถบัส ทัวร์สัมมนา
เราคือ Organizer ผู้ให้บริการ Webinar จัดงานสัมมนา ประชุม อบรม รูปแบบครบวงจร
บริษัทรับจัดสัมมนาเพชรบูรณ์
รับจัดทัวร์เพชรบูรณ์
จัดท่องเที่ยวกิจกรรมเพชรบูรณ์
กิจกรรมทัวร์เพชรบูรณ์
ทริปเที่ยวประจำปีบริษัทเพชรบูรณ์
โปรแกรมทัวร์เพชรบูรณ์
บริษัทจัดสัมมนาเพชรบูรณ์
จัดโปรแกรมทัวร์เพชรบูรณ์
กิจกรรมสัมมนาเพชรบูรณ์

รู้จักประเภท ‘รถทัวร์’ เลือกนั่งไปเที่ยวยังไงไม่ให้สับสน
ชวนทำความรู้จัก "รถทัวร์" หรือรถบัสโดยสารสาธารณะในประเทศไทย ว่ามีกี่ประเภท? อะไรบ้าง? พร้อมเปรียบเทียบความแตกต่างของ "รถทัวร์" ประเภทต่างๆ เพื่อช่วยให้คุณสามารถเลือกจองตั๋วรถได้อย่างตรงใจ
กางปฏิทินเห็นวันหยุดยาวทีไร กิจกรรมยอดฮิตของคนไทยคงหนีไม่พ้นการเดินทาง "ท่องเที่ยว" เปลี่ยนบรรยากาศ ไม่ว่าจะเที่ยวในกรุงเทพฯ หรือเที่ยวต่างจังหวัดก็ตาม โดยเฉพาะเดือนกรกฎาคมนี้ พบว่ามีวันหยุดนักขัตฤกษ์หลายวัน เช่น วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา เมื่อพ่วงวันหยุดประจำสัปดาห์เข้าไปอีก ก็ทำให้ภายในเดือนกรกฎาคมมีวันหยุดยาวถึง 4 วัน คือวันที่ 4-7 กรกฎาคม 2563 (วันที่ 7 กรกฎาคม เป็นวันหยุดชดเชยเพิ่มเติมตามมติ ครม.)
หลังจากรู้แล้วว่าเดือนนี้ได้หยุดยาว 4 วัน สำหรับคนที่ชอบเที่ยวขั้นตอนต่อไปก็คือ การเลือกสถานที่ท่องเที่ยวและวางแผนเดินทาง และเมื่อพูดถึงวิธี "การเดินทาง" หลายคนย่อมอยากได้การเดินทางที่สะดวกสบาย ปลอดภัย และราคาไม่แพงจนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว หรือมีรถแต่ไม่สะดวกขับรถด้วยตนเอง ยิ่งต้องวางแผนเรื่อง "การเดินทาง" ให้รัดกุม หนึ่งวิธีเดินทางที่สะดวกสบายและราคาประหยัดก็คือการใช้บริการ "รถทัวร์"
ปัจจุบันนี้การให้บริการ "รถทัวร์" เพื่อเดินทางข้ามจังหวัดในระยะไกลนั้นถูกพัฒนาการบริการดีขึ้นกว่าแต่ก่อน และยังคงมีราคาสบายกระเป๋า แถมมีผู้ให้บริการหลากหลายเจ้า แต่หลายคนก็มักพบปัญหากวนใจทุกครั้งก่อน "จองตั๋วรถทัวร์" เช่น เลือกซื้อตั๋วไม่ถูกเพราะสับสนประเภทของรถทัวร์ เป็นต้น วันนี้ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ เลยอยากชวนคุณไปรู้จัก "รถทัวร์" ประเภทต่างๆ พร้อมเปรียบเทียบความแตกต่างของรถทัวร์แต่ละประเภท เอาไว้เป็นไกค์เพื่อให้จองตั๋วรถทัวร์ได้ง่ายขึ้น
รถทัวร์มีกี่ประเภท? อะไรบ้าง?
ใครที่ยังสงสัยเกี่ยวกับการจองตั๋ว "รถทัวร์" ต้องเข้ามาอ่านตรงนี้ด่วนๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโทรจองกับบริษัทต่างๆ พนักงานจะพูดรัวเร็วและมักใช้ตัวย่อ จนบางทีคนฟังก็งงไปหมด ทั้งนี้ พ.ร.บ. การขนส่งในหมวดการขนส่งผู้โดยสารแบ่งประเภทรถออกเป็น 7 มาตรฐาน คือ
มาตรฐาน 1 รถปรับอากาศพิเศษ
มาตรฐาน 2 รถปรับอากาศ
มาตรฐาน 3 รถที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ
มาตรฐาน 4 รถสองชั้น
มาตรฐาน 5 รถพ่วง
มาตรฐาน 6 รถกึ่งพ่วง
มาตรฐาน 7 รถโดยสารเฉพาะกิจ
โดยมาตรฐานรถที่บริษัทขนส่งผู้โดยสารนิยมใช้กันมี 3 ประเภท คือ รถปรับอากาศพิเศษ, รถปรับอากาศ, รถสองชั้น
โดยมาตรฐานรถที่บริษัทขนส่งผู้โดยสารนิยมใช้ก็มีเพียง 3 ประเภท คือ มาตรฐาน 1 รถปรับอากาศพิเศษ มาตรฐาน 2 รถปรับอากาศ และมาตรฐาน 4 รถสองชั้น
มาตรฐาน 1 รถปรับอากาศพิเศษ หรือ รถ ม.1
เริ่มจาก "รถทัวร์" ที่เรียกว่ารถมาตรฐาน 1 หรือใช้ตัวย่อว่า ม.1 คือรถทัวร์โดยสารที่มีชั้นเดียว และมีจำนวนเบาะน้อยกว่ารถประเภทอื่นๆ ทำให้รถประเภทนี้มีพื้นที่และความเป็นส่วนตัวมากกว่า โดยรถ ม.1 ก็มีการแบ่งประเภทแยกย่อยออกไปอีก ได้แก่
ม.1 ก : รถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารที่มีการกำหนดห้องผู้โดยสารเป็นสัดส่วนแยกจากห้องผู้ขับรถ มีทางขึ้นทางลงด้านข้างหรือที่ด้านท้ายของรถ ไม่กำหนดที่สำหรับผู้โดยสารยืน มีเครื่องปรับอากาศ มีที่เก็บสัมภาระไว้โดยเฉพาะ มีที่เตรียมอาหารและเครื่องดื่ม มีอุปกรณ์ให้เสียงและประชาสัมพันธ์ และมีห้องสุขภัณฑ์ มีที่วางแขนเฉพาะแยกแต่ละที่นั่ง ปรับเอนได้ 135 องศาฯ ระยะห่างระหว่างเบาะไม่น้อยกว่า 90 ซม. จัดที่นั่งแถวละไม่เกิน 3 ที่นั่ง
ม.1 ข : รถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารที่มีการกำหนดห้องผู้โดยสารเป็นสัดส่วนแยกจากห้องผู้ขับรถ มีทางขึ้นทางลงด้านข้างหรือที่ด้านท้ายของรถ ไม่กำหนดที่สำหรับผู้โดยสารยืน มีเครื่องปรับอากาศ มีที่เก็บสัมภาระไว้โดยเฉพาะ มีที่เตรียมอาหารและเครื่องดื่ม มีอุปกรณ์ให้เสียงและประชาสัมพันธ์ และมีห้องสุขภัณฑ์ มีระยะห่างระหว่างเบาะไม่น้อยกว่า 75 ซม.
มาตรฐาน 2 รถปรับอากาศ หรือ รถ ม.2
เป็น "รถทัวร์" โดยสารที่มีจำนวนที่นั่งเกิน 30 ที่นั่ง มีชั้นเดียว ทางขึ้นลงด้านข้างหรือด้านท้ายของรถ ส่วนพื้นที่สำหรับเก็บสัมภาระ ที่เตรียมอาหารเครื่องดื่ม และอุปกรณ์ให้เสียงและประชาสัมพันธ์นั้น จะมีหรือไม่ก็ได้ แต่ไม่มีห้องสุขภัณฑ์ ทั้งนี้ส่วนใหญ่แล้วรถประเภทนี้จะเป็นรถที่เราคุ้นเคยกันอย่างรถเมล์ต่างๆ ที่ใช้โดยสารในกรุงเทพฯ แต่ก็มีบางบริษัทที่เอามาใช้โดยสารข้ามจังหวัดเช่นกัน โดยรถ ม.2 มีการแบ่งย่อยเป็นอีกหลายประเภท ดังนี้
ม.2 ก : มีเครื่องปรับอากาศ มากกว่า 30 ที่นั่ง มีที่เตรียมอาหาร ไม่มีที่ยืน
ม.2 ข : มีเครื่องปรับอากาศ มากกว่า 30 ที่นั่ง ไม่มีที่เตรียมอาหาร มีที่ยืน
ม.2 ค : มีเครื่องปรับอากาศ มีจำนวนที่นั่งตั้งแต่ 21 ถึง 30 ที่นั่ง มีที่เตรียมอาหารหรือไม่ก็ได้ ไม่มีที่ยืน
ม.2 ง : มีเครื่องปรับอากาศ มีจำนวนที่นั่งตั้งแต่ 21 ถึง 30 ที่นั่ง ไม่มีที่เตรียมอาหาร มีที่ยืน
ม.2 จ : รถตู้ มีที่นั่งไม่เกิน 20 ที่นั่ง ไม่มีที่ยืน
มาตรฐาน 4 รถสองชั้น หรือ รถม.4
เป็น "รถทัวร์" ขนส่งมวลชนสาธาระแบบ 2 ชั้น แบ่งเป็น
ม.4 ก : รถสองชั้นปรับอากาศพิเศษ ซึ่งมีรูปแบบและการจัดวางที่นั่งของผู้โดยสารที่ให้ความสะดวกสบาย ไม่กำหนดที่สำหรับผู้โดยสารยืน มีเครื่องปรับอากาศ มีที่เก็บสัมภาระไว้โดยเฉพาะ มีที่สำหรับเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม มีอุปกรณ์ให้เสียงและประชาสัมพันธ์ และมีห้องสุขภัณฑ์ ระยะห่างระหว่างเบาะไม่น้อยกว่า 90 ซม. จัดที่นั่งแถวละไม่เกิน 3 ที่นั่ง
ม.4 ข : รถสองชั้นปรับอากาศ ไม่กำหนดที่สำหรับผู้โดยสารยืน มีเครื่องปรับอากาศ มีที่เก็บสัมภาระไว้โดยเฉพาะ มีที่สำหรับเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม มีอุปกรณ์ให้เสียงและประชาสัมพันธ์ และมีห้องสุขภัณฑ์ ระยะห่างระหว่างเบาะไม่น้อยกว่า 75 ซม.
ม.4 ค : รถสองชั้นปรับอากาศ ไม่กำหนดที่สำหรับผู้โดยสารยืน มีเครื่องปรับอากาศ แต่ไม่มีห้องสุขภัณฑ์ ส่วนที่เก็บสัมภาระ ที่สำหรับเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม และอุปกรณ์ให้เสียงและประชาสัมพันธ์นั้น จะมีหรือไม่ก็ได้
ม.4 ง : รถสองชั้นปรับอากาศ ซึ่งชั้นล่างกำหนดให้มีที่สำหรับผู้โดยสารยืน มีเครื่องปรับอากาศ แต่ไม่มีที่สำหรับเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม และห้องสุขภัณฑ์ สำหรับที่เก็บสัมภาระและอุปกรณ์ให้เสียงและประชาสัมพันธ์นั้น จะมีหรือไม่ก็ได้
ม.4 จ : รถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารที่มีจำนวนที่นั่งตั้งแต่ 13 - 24 ที่นั่ง มีทางขึ้นลงด้านข้างหรือด้านท้ายของรถ จะกำหนดที่สำหรับผู้โดยสารยืนหรือไม่ก็ได้ และจะมีที่เก็บสัมภาระด้วยหรือไม่ก็ได้
ม.4 ฉ : รถสองชั้นที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ไม่กำหนดให้มีที่สำหรับผู้โดยสารยืน มีที่เก็บสัมภาระ แต่ไม่มีที่สำหรับเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม และห้องสุขภัณฑ์
กล่าวโดยสรุป ก็คือ
รถ ม.1 เป็นรถทัวร์ชั้นเดียว มีจำนวนเบาะน้อยกว่ารถประเภทอื่นๆ ทำให้รถประเภทนี้มีพื้นที่และความเป็นส่วนตัวมากกว่า
รถ ม.2 เป็นรถทัวร์ชั้นเดียว ส่วนใหญ่แล้วนิยมนำไปโดยสารระยะใกล้ เช่น รถเมล์ในกรุงเทพฯ
รถ ม.4 เป็นรถทัวร์สองชั้น ให้ความสะดวกสบายใกล้เคียงกับรถ ม.1 ต่างกันที่จำนวนชั้น
บริษัทขนส่งยอดฮิต มีรถประเภทอะไรบ้าง?
บริษัทขนส่งผู้โดยสารส่วนใหญ่นั้นมักจะตั้งชื่อรถให้มีความโดดเด่นเฉพาะตัว รวมถึงการจัดประเภทรถตามนโยบายของแต่ละที่ เราจึงรวบรวมรถของ 3 บริษัทยอดฮิตมาให้พิจารณากันว่ามีบริการ "รถทัวร์" ประเภทไหนบ้าง? โดยเรียงลำดับจากความนั่งสบายมากที่สุดไปหาน้อยที่สุด
1. สมบัติทัวร์
ประเภท Supreme = ม.4 ก
ประเภท Super = ม.1
ประเภท Star = ม.4 ข
2. นครชัยแอร์
Gold Class (VIP) = ม.1 ก
First Class = ม.1 ข
3. บขส. 999
ม.1 (ก) vip
ม.4 (ก) vip
ม.4 (พ)
ม.1 (ข)
ม.4 (ข)
ม.4 (ค)
ม.2
การขนส่ง
การขนส่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนใหญ่จะใช้ระบบถนน เนื่องจากไม่มีทางรถไฟ และมีท่าอากาศยาน 1 แห่ง คือ ท่าอากาศยานเพชรบูรณ์ ซึ่งไม่มีเที่ยวบินพาณิชย์ให้บริการ การขนส่งทางถนนในจังหวัดเพชรบูรณ์ มีทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21 เป็นทางหลวงสายหลักพาดผ่านในแนวเหนือ-ใต้ ผ่านเขตจังหวัดเป็นระยะทาง 114.834 กิโลเมตร การเดินทางจากกรุงเทพมหานครมายังจังหวัด สามารถใช้ถนนพหลโยธิน จากนั้นเลี้ยวเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21 ที่แยกพุแค (ประมาณกิโลเมตรที่ 123 ของถนนพหลโยธิน) ผ่านจังหวัดลพบุรี แล้วเข้ามายังจังหวัดเพชรบูรณ์ ผ่านตัวจังหวัด แล้วออกไปยังจังหวัดเลย ระยะทางจากกรุงเทพมหานครมายังตัวจังหวัดอยู่ห่างประมาณ 346 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 เชื่อมต่อไปยังจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดขอนแก่น, ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 113 เชื่อมต่อจังหวัดไปยังจังหวัดพิจิตร, ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 225 เชื่อมต่อไปยังจังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดชัยภูมิ
สถานที่สำคัญ